การตรวจรอยพิมพ์ลายนิ้วมือของผู้ต้องขังนั้น ทำได้ไม่ยากเนื่องจากเป็นการตรวจระบบปิด (Closesystem) หรือแบบ 1:1 คือ เอาลายนิ้วมือผู้ต้องขังมาเปรียบเทียบกับรอยพิมพ์ที่อยู่ในแฟ้มประวัติผู้ต้องขังที่ต้องการ
ดังนั้นจึงใช้เวลาไม่มาก ซึ่งต่างจากการตรวจเพื่อดูว่าผู้ต้องขังเคยต้องโทษมาก่อนหรือไม่(ในกรณีที่ผู้ต้องขังเปลี่ยนชื่อหรือปกปิดชื่อเดิม) วิธีหลังนี้จะทำได้ยากเพราะต้องเอาลายนิ้วมือของผู้ต้องขังมาเปรียบเทียบกับลายนิ้วมือทั้งหมดที่มีอยู่ในคลังข้อมูล
แต่หากผู้กระทำความผิดไม่เคยกระทำความผิดมาก่อน จะไม่มีข้อมูลอยู่ในสารระบบ ดังนั้นถึงแม่จะสามารถหาลายนิ้วมือในที่เกิดเหตุได้ก็ไม่สามารถรู้ได้ว่าเป็นใคร
เนื่องจากลายบนนิ้วมือ ฝ่ามือและฝ่าเท้าของเราไม่เคยซ้ำกัน จึงเป็นที่มาของวิชาดู
ลายมือ (Palmistry) ซึ่งเป็นศาสตร์ลึกลับที่มีมาหลายพันปีแล้ว หมอดูลายมือบางคนก็เดาแม่น บางคนก็ดูมั่ว
แต่บางคนก็เก่งจริงๆครับ.....ไม่เชื่ออย่าลบหลู่.....
ดังนั้นจึงใช้เวลาไม่มาก ซึ่งต่างจากการตรวจเพื่อดูว่าผู้ต้องขังเคยต้องโทษมาก่อนหรือไม่(ในกรณีที่ผู้ต้องขังเปลี่ยนชื่อหรือปกปิดชื่อเดิม) วิธีหลังนี้จะทำได้ยากเพราะต้องเอาลายนิ้วมือของผู้ต้องขังมาเปรียบเทียบกับลายนิ้วมือทั้งหมดที่มีอยู่ในคลังข้อมูล
แต่หากผู้กระทำความผิดไม่เคยกระทำความผิดมาก่อน จะไม่มีข้อมูลอยู่ในสารระบบ ดังนั้นถึงแม่จะสามารถหาลายนิ้วมือในที่เกิดเหตุได้ก็ไม่สามารถรู้ได้ว่าเป็นใคร
เนื่องจากลายบนนิ้วมือ ฝ่ามือและฝ่าเท้าของเราไม่เคยซ้ำกัน จึงเป็นที่มาของวิชาดู
ลายมือ (Palmistry) ซึ่งเป็นศาสตร์ลึกลับที่มีมาหลายพันปีแล้ว หมอดูลายมือบางคนก็เดาแม่น บางคนก็ดูมั่ว
แต่บางคนก็เก่งจริงๆครับ.....ไม่เชื่ออย่าลบหลู่.....